หลายๆคนคงจะเริ่มรู้สึกเบื่อกันไปแล้วกับแบบบ้านในโครงการทาวน์เฮ้าส์รูปทรงเดิมๆซ้ำๆเหมือนกันไปเสียทุกที่ทุกโครงการ ซึ่งแน่ล่ะว่าบ้านทาวน์เฮ้าส์นั้นมีข้อดีตรงที่สำเร็จรูปพร้อมเข้าอยู่อาศัยแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่เชื่อเถอะว่าคิดเสียหน่อยก็คงดีเพราะสมัยนี้นอกจากเรื่องของความสะดวกในการย้ายเข้าอยู่และการเลือกซื้อบ้านแต่ละหลัง ยังมีเรื่องของสไตล์และองค์ประกอบอื่นๆของบ้านที่ช่วยให้คุณภาพชีวิตดีที่เราต้องให้ความสำคัญด้วย
งานออกแบบบ้านหลังนี้เป็นของ Hasta architects จากประเทศอินเดีย โดยเป็นลักษณะบ้านทาวน์เฮ้าส์สองชั้นซึ่งตั้งอยู่ในละแวกบ้านแถบชานเมืองซึ่งเป็นทำเลทองของเหล่าโครงการบ้านจัดสรรต่างๆ แต่ความแตกต่างที่ทำให้บ้านหลังนี้มีความโดดเด่นไปจากบ้านหลังอื่นๆคือรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัยและน่าดึงดูดให้เข้าไปชมยังพื้นที่ภายใน เป็นการหลุดออกจากรูปแบบบ้านรูปทรงน่าเบื่อๆแบบเดิมๆ ทั้งยังมีรายละเอียดที่ช่วยให้บ้านเป็นบ้านที่น่าอยู่มากขึ้นด้วย ดูแล้วมีเหมาะสมกับที่ตั้งของเมืองไทยและไลฟ์สไตล์แบบไทยๆซี่งเชื่อว่าคุณผู้อ่านน่าจะได้ไอเดียไปปรับใช้กับบ้านคุณได้แบบง่ายๆ
ตัวบ้านมีลักษณะเป็นบ้านสองชั้น รูปลักษณ์ภานอกเป็นบ้านทรงกล่องโมเดิร์นด้วยการออกแบบหลังคาแบบแบนราบ(Flat Slab) โดยมีการเลือกใช้โทนสีและวัสดุเป็นสีขาว-เทาและใช้หินเป็นวัสดุกรุผิวซึ่งให้สัมผัสทางสายตาที่ดูเรียบเท่ ทั้งยังมีการจัดตำแหน่งของดวงโคมซึ่งดูแตกต่างจากบ้านในละแวกเดียวกันและดูทันสมัย
ทางเข้าบ้านหลังนี้นั้นได้ถูกจัดวางตำแหน่งให้ขยับมาอยู่ที่ด้านข้างของบ้านโดยมีการออกแบบทางเดินปูด้วยแผ่นกระเบื้องหินสีดำ ตกแต่งด้วยการนำไม้กระถางขนาดเล็กวางเรียงราย ทั้งยังมีการออกแบบให้ยกพื้นขึ้นไปยังประตูทางเข้า เป็นแนวทางการออกแบบทางเข้าบ้านที่ค่อยๆนำความรู้สึกก่อนที่จะเข้าไปยังพื้นที่ภายใน ข้อดีอีกอย่างของการปรับตำแหน่งทางเข้าคือช่วยในเรื่องของความเป็นส่วนตัวของบ้านได้
เข้ามาภายในจะเจอกับพื้นที่สุดแกรนด์คือโถงต้อนรับซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่แจกจ่ายการใช้งานไปยังส่วนต่างๆทั้งห้องนั่งเล่น โถงบันได และครัว แนวทางการตกแต่งคือเน้นเส้นสายเรขาคณิตลายตารางและใช้สีขาว-ดำเป็นหลัก โดยจัดให้เป็นส่วนดิสเพลย์ที่สามารถตั้งโชว์งานศิลปะหรือของตกแต่งอย่างโดดเด่นที่กลางพื้นที่ ช่วยให้เกิดการดึงความสนใจเข้าไปยังตัวงานและไม่ทำให้พื้นที่ดูว่างเปล่า
บริเวณห้องนั่งเล่นนั้นเราจะเห็นได้ชัดเลยว่ามีการใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นเพื่อความโปร่งโล่ง ทั้งชั้นวางของบริเวณทีวีที่ใช้เป็นแบบลอยตัวและตัวโซฟาที่นั่งก็ใช้แบบเข้ามุมเพื่อให้เกิดพื้นที่โล่งตรงกลางซึ่งสามารถใช้งานนั่งเล่นกับพื้นแบบชิลๆได้ตามใจชอบ โทนสีที่ใช้ก็เน้นใช้สีน้ำตาลซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นแก่พื้นที่
พื้นที่ห้องครัวและพื้นที่นั่งรับประทานอาหารถูกผนวกรวมเข้าเป็นพื้นที่เดียวกันซึ่งทำให้การใช้งานเป็นไปได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น การจัดารกใช้สอยก็ใช้เคาน์เตอร์ครัวรูปตัวแอล(L)ซึ่งเรียบง่ายและสามารถปรับเข้ากับพื้นที่ห้องได้อย่างง่ายดายและมีพื้นที่เลหือสำหรับใช้งานเดินเข้าเดินออกอย่างคล่องตัว ส่วนพื้นที่นั่งรับประทานอาหารก็เรียบง่ายด้วยการจัดวางชุดเก้าอี้ดีไซน์โค้งมนที่ดูแล้วอบอุ่นสุดๆ
ขึ้นมาถึงห้องนอนใหญ่ของบ้านที่มาพร้อมการออกแบบล้ำสมัยด้วยรูปทรงของฝ้าเพดานที่มีการเล่นกับไฟซ่อนหลืบ รวมถึงการออกแบบชั้นวางส่วนติดตั้งโทรทัศน์และการใช้โทนสีสลับกันระหว่างขาว-เทา-น้ำตาลเข้ม ดูแล้วมีความเท่และความเคร่งขรึมซึ่งทำให้บรรยากาศของห้องนอนนั้นเย็นสบายตาและชวนให้พักผ่อน
ดูก็รู้ได้เลยทันทีว่านี่คือห้องนอนของลูกๆแน่นอน เห็นได้ชัดจากการนำเอาลวดลายการ์ตูนเรื่องโปรดมาใช้กับการตกแต่งซึ่งช่วยทำให้บรรยากาศมีความสนุกสดใสสมวัย ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่ประการใดหากเจ้าบ้านหรือเจ้าของห้องนั้นมีความสุขในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีการออกแบบพื้นที่โต๊ะทำการบ้านให้เข้ากับพื้นที่มุมห้องอีกด้วย
ห้องนอนแขกของบ้านนี้ได้รับการออกแบบห้มีบรรยากาศที่แลดูซอฟต์ลงด้วยการใช้โทนสีน้ำตาลอ่อนกับเฟอร์นิเจอร์เตียงและตู้เสื้อผ้าแบบบิลต์อิน ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่สวยสะอาดตา ดูดีแบบไม่ต้องตกแต่งอะไรให้วุ่นวายมากความ
การออกโถงบันไดของบ้านหลังนี้ก็ไม่ธรรมดาโดยสถาปนิกได้ทำการตกแต่งให้มีความโปร่งและมีความโมเดิร์น ทั้งการออกแบบให้เป็นบีนไดแบบลอยตัว การเลือกใช้วัสดุสีขาวและดำ การใช้กระจกเป็นส่วนของราวกันตกซึ่งความโปร่งแสงนี้ได้ทำให้เกิดความรู้สึกเบาและดูทันสมัยสุดๆ
แอบมีความรักษ์โลกอยู่เบาๆกับบริเวณหลังบ้านซึ่งมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับติดตั้งผนังเขียวหรือ Green Wall ซึ่งเดี๋ยวนี้สมัยนี้ใครๆก็หันมาให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการสร้างบรรยากาศและการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมด้วยพืชพรรณภายใต้พื้นที่จำกัด การปลุกพืชในแนวตั้งจึงเป็นแนวคิดหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาได้ ซึ่งนอกจากจะดูแลรักษาง่ายแล้วยังมีราคาถูกอีกด้วย